เว็บสล็อตออนไลน์ จับเกย์หื่นขืนใจดญ.วัย 14 เพื่อนลูกชาย อ้างเด็กเล้าโลมจนเกิดอารมณ์ทางเพศ

เว็บสล็อตออนไลน์ จับเกย์หื่นขืนใจดญ.วัย 14 เพื่อนลูกชาย อ้างเด็กเล้าโลมจนเกิดอารมณ์ทางเพศ

จับเกย์หื่นขืนใจดญ.วัย 14 เพื่อนลูกชาย อ้างเด็กเล้าโลมจนเกิดอารมณ์ทางเพศ เว็บสล็อตออนไลน์ วันที่ 18 ก.พ. ที่ ตำรวจจับกุมนายบุญส่ง เลื่อนลอย อายุ 50 ปี ชาว ต.บุ่งคล้า อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ข้อหา “กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม, พาเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ไปเพื่อการอนาจาร, พรากเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปีไปเสียจากบิดามารดา โดยปราศจากเหตุอันสมควร” โดยจับกุมได้ที่บริเวณริมถนนเลียบคลองส่งน้ำสุวรรณภูมิ ใกล้กับบริษัทขนส่งเคอรี่ สาขาบางปลา ต.บางปลา อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ

สืบเนื่องจากเมื่อปลายปี 2559 ผู้ปกครอง ด.ญ. เอ (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี 

เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร ว่า ลูกสาวตนเองถูกนายบุญส่งข่มขืน ต่อมานายบุญได้หลบหนีไป เจ้าหน้าที่สืบทราบว่า นายบุญส่งหนีมากบดานอยู่ใน จ.สมุทรปราการ จึงติดตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว

นายบุญส่ง รับสารภาพ ก่อนหน้านี้ ด.ญ. เอ ได้เข้ามาหาลูกชายที่บ้านพัก แต่ลูกชายไม่อยู่ ส่วนตนนอนหลับอยู่ ด.ญ.เอเข้ามาเล้าโลม แต่ตนเองเป็นชายรักชาย ทว่าเมื่อถูกเล้าโลมมากขึ้น จึงเกิดอารมณ์ทางเพศ ร่วมหลับนอนกับด.ญ.เอ และได้มีเพศสัมพันธ์กับด.ญ.เอ อีก 2 ครั้ง จนพ่อแม่ของด.ญ.เอ ทราบเรื่องได้ไปแจ้งความ จึงได้หลบหนีมาอยู่ที่ จ.สมุทรปราการ

หนุ่มอุ้มองค์พระออกจากศาลเจ้าปุดจ้อ ล่าสุดส่งคืนแล้ว เผยไม่คิดขโมย แค่นำไปบูชา – แม่วอนสังคมเห็นใจลูกป่วยจิต จากกรณีผู้ใช้เฟสบุ๊คชื่อ “Suwat Aiwtammatikorn”ได้มีการโพสต์วิดิโอคลิปจำนวน 4 คลิป ลงในเฟสบุ๊กส่วนตัว พร้อมระบุข้อความว่า “ขโมยมาอีกแล้วครับ รอบนี้ลักพระใน #อ๊ามปุดจ้อ เอาไป 5องค์ มีผู้ร่วมขบวนสองคน พระที่หายคือ 1.พระไต่เซ่จี่โพธิสัตว์ 1 องค์ 2.พระฮวดจู้ก้ง 2 องค์ 3.พระโลเฉี้ย 1 องค์ 4.พระปุ้นถ่าวก้ง 1 องค์ ใครพบเห็นบุคคลดังกล่าว กรุณาแจ้งเบาะแสได้ครับ…”

ทั้งนี้ ในคลิปดังกล่าวเป็นภาพของชายสวมเสื้อยืดสีขาว นุ่งกางเกงขาสั้นลายพราง สะพายกระเป๋าสีดำ เดินเข้าไปในศาลเจ้าและอุ้มองค์พระ(กิ้มซิ้น)ก่อนเดินออกไปขณะที่มีคนอยู่ในศาลเจ้า ก่อนจะกลับมาอีก 2 ครั้งเพื่ออุ้มกิ้มซิ้นออกไปอีก ซึ่งหลังมีการโพสต์ก็มีผู้คนจำนวนมากเข้าไปแสดงความคิดเห็นต่างๆนานา โดยส่วนใหญ่ประนามผู้ก่อเหตุว่าไม่ละอายชั่วกลัวบาป

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง นายธีรวุฒิ ศรีตุลารักษ์ ประธานศาลเจ้าปุดจ้อ เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. – 12 .00 น. ของวันที่ 15 ก.พ.62 ที่ผ่านมาและหลังทราบเรื่องในเวลาประมาณ 13.00 น.ของวันเดียวกัน ก็ได้เดินทางเข้าแจ้งความสภ.เมืองภูเก็ต เพื่อให้ช่วยติดตามตัว และล่าสุดเมื่อช่วงเช้าวันที่ 16 ก.พ.62 )บุคคลดังกล่าวตามคลิปพร้อมด้วยมารดา ได้ติดต่อนำองค์พระ(กิ้มซิ้น)ทั้งหมดมาคืนที่ศาลเจ้าแล้ว และเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนที่สภ.เมืองภูเก็ต

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่สภ.เมืองภูเก็ต เพื่อพูดคุยกับบุคคลดังกล่าวในระหร่างรอเจ้าหน้าที่ทำการบันทึกข้อมูล ซึ่งเบื้องต้นทราบชื่อคือนายบิ๊ก (ขอสงวนชื่อ – สกุลจริง ) อายุ 37 ปี อาศัยอยู่ในพื้นที่ ต.กะทู้ อ.กะทู้ ซึ่งนายบิ๊กสารภาพว่าตนเองกระทำจริง แต่ไม่ได้เจตนาที่จะขโมยไปเป็นทรัพย์สินส่วนตัว หรือนำไปขายแต่อย่างใด ต้องการเพียงนำองค์พระ(กิ้มซิ้น)ไปที่บ้านเพื่อความเป็นศิริมงคลและให้หายจากอาการป่วย ก่อนตั้งใจจะนำกลับมาคืนในภายหลัง โดยก่อนเอาไปได้บอกกับผู้ที่ดูแลศาลเจ้าแล้ว แต่คาดว่าจะไม่ได้ยินเนื่องจาก อยู่ระหว่างการดูแลผู้ที่มาไหว้พระขอพร ตนเองจึงอุ้มองค์พระ(กิ้มซิ้น)ออกไปทางด้านข้าง ศาลเจ้า ก่อนจะขึ้นรถจยย.ที่จอดไว้ขับไปที่บ้านในพื้นที่ ต.กะทู้ และกลับมาอีกรวม 3 รอบ เมื่อขนองค์พระ(กิ้มซิ้น)เสร็จ จึงจัดตั๋วกราบไหว้บูชาและขอพรองค์พระ ก่อนที่แฟนสาวจะส่งโพสต์มาให้ดูว่ามีการเผยแพร่คลิปทางโซเชี่ยล เช้านี้จึงรีบติดต่อทางศาลเจ้าก่อนเดินทางนำองค์พระทั้งหมดมาคืน ทั้งนี้ตนเองต้องกราบขอโทษพี่น้องชาวภูเก็ตทุกคนที่ตนเองได้ทำให้ไม่สบายใจ และอยากขอให้สังคมให้อภัยเนื่องจากที่ทำไปเพราะอาการป่วย และอยากให้เป็นสิริมงคลไม่มีเจตนาลักขโมย

คลิปรวบหนุ่มขับแท็กซี่ แต่งกายผิดระเบียบ ใส่รองเท้าแตะ-ไม่ติดป้ายชื่อ แถมดูหมิ่นพนักงานจนได้เรื่อง

เพจเฟสบุ๊คชื่อ ‘เพจคลิปดังเฟซบุ๊ก’ โพสต์วิดีโอจากกล้องติดหมวกของเจ้าหน้าี่ตำรวจจราจรขณะปฏิบัติหน้าที่ โดยในคลิป เจ้าหน้าที่ตำรวจสองนายกำลังเข้าตรวจค้นรถแท็กซี่ ที่ปรากฏภายหลังว่าแต่งกายไม่ถูกระเบียบตามกฏกระทรวง ว่าด้วยการขัรถโดยสารสาธารณะ จนกระทั่งมีการถกเถียงกันเกิดขึ้น จนกระทั่งตำรวจต้องรวบตัวคนขับแท็กซี่รายนี้ใส่กุญแจมือ และหลังจากที่คลิปถูกโพสต์ออกไป ก็มีชาวโซเชี่ยลได้ออกมาแสดงความคิดเห็นมากมาย

ด้านนางเอ(นามสมมติ) มารดาของนายบิ๊กเปิดเผยว่า เดิมทีบุตรชายเป็นคนดี ทำมาหากิน ประกอบสัมมาชีพตามปกติ ไม่เคยมีนิสัยลักขโมย ก่อนประสบปัญหาในชีวิตหลายด้าน ทำให้มีอาการทางจิตและอยู่ระหว่างการรักษาจิตเวช มาประมาณ 3 เดือน ต้องกินยาอยู่ตลอด ไม่สามารถทำงานได้ ก่อนหน้านี้นายบิ๊กก็หายออกจากบ้านจนต้องตามหาบ่อย กระทั่งมาทราบว่าก่อเหตุนี้ขึ้น ซึ่งตนเองต้องขอโทษสังคมที่ดูแลลูกได้ไม่ดี และอยากขอความเห็นใจสังคมอย่าซ้ำเติมลูกชาย

อย่างไรก็ตาม ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ดำเนินการสอบสวนเบื้องต้น และบันทึกถ้อยคำนายบิ๊ก ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาตามกฏหมาย “ในฐานลักทรัพย์ฯในเวลากลางวันโดยใช้ยานพาหนะ” ส่วนกรณีที่นายบิ๊กมีอาการป่วยต้องรักษาจิตเวชนั้นขึ้นอยู่กับดุลพินิจของพนักงานสอบสวนและศาลฯ เว็บสล็อต